บทที่ 4
การใช้คอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย
หน่วยที่ 4
การใช้คอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย
4.1
ข้อควรปฏิบัติในการใช้งานคอมพิวเตอร์
เคล็ดลับ 10
ประการในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง:
การใช้คอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัยกับซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดสถานที่ทำงานปัจจุบัน
ใช้โปรแกรมปรับปรุงล่าสุดติดตั้งโปรแกรมปรับปรุงและซอฟต์แวร์รักษาความสามารถปลอดภัยในห้างหุ้นส่วนจำกัดเซิร์ฟเวอร์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งชนิดตั้งโต๊ะและชนิดแล็ปท็อปทุกเครื่องในห้างหุ้นส่วนจำกัด
การรับโปรแกรมปรับปรุงล่าสุดของระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ Windows
ของโปรดไปที่ Microsoft
Update ซึ่งจะสแกนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อ
ตรวจสอบว่าคุณต้องใช้โปรแกรมปรับปรุงตัวใดจากนั้นคุณจะสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมปรับปรุงโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งหรือ
ทุกโปรแกรมได้
เพื่อเป็นการปรับปรุงความสามารถปลอดภัยและความสามารถเสถียรของซอฟต์แวร์
Microsoft
Office ของคุณให้ไปที่ Office
Update แล้วไปที่ลิงค์ตรวจหาการปรับปรุง
ลดความเสี่ยงจากภัยของไวรัสมี
วิธีการต่างๆเป็นจำนวนมากที่คุณสามารถกระทำได้เพื่อป้องกัน
คอมพิวเตอร์และเครือข่ายของ คุณให้ปลอดภัยจากไวรัสการใช้ซอฟต์แวร์ ป้องกันไวรัสและทำให้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวทันสมัยอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นลำดับแรกและยังมีสิ่งอื่น
ๆ ที่คุณสามารถทำได้เช่น :
ใช้การตั้งค่าเพื่อรักษาความปลอดภัย
ที่ตั้งมาจากโรงงาน ใน Office 2003 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีปลอดภัยมากที่สุด
เท่าที่วางจำหน่ายมาของ สำนักงาน
1. เข้าเว็บไซต์ Office
Update เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมปรับปรุงและแพทช์ต่างๆ
2. ห้ามเปิดอีเมลหรือไฟล์แนบที่น่า
สงสัยให้ใช้ประโยชน์จากตัวกรองอีเมลขยะที่ยอดเยี่ยมของ Outlook
2003 เพื่อส่งอีเมลที่น่าสงสัยตรงไป
ยังโฟลเดอร์อีเมลขยะของคุณ
3. ใช้ของ Windows
ศูนย์รักษาความปลอดภัยในการตั้งค่าดู
ข้อมูลอย่างชัดเจนของการตั้งค่าการ
รักษาความปลอดภัยในคอมพิวเตอร์ของคุณที่รวมข้อมูลทุกอย่างไว้ในจอภาพเดียวใน Windows
Security Centre โดยคุณสามารถปรับแต่งระดับการป้องกัน
ได้ตามความเหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณการตั้งค่าที่
ใช้ป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณดังกล่าวจะ
มีผลกับไฟล์หรือข้อมูลทั้งหมดที่ส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ตซึ่งช่วยป้องกันข้อมูลลับทางธุรกิจของคุณ
4. เข้ารหัสข้อมูลที่มีความสำคัญในเครื่องแล็ปท็อปของคุณหากคุณเดินทางเพื่อทำธุรกิจและใช้เครื่องแล็ปท็อปที่รันด้วย
Windows
2000 Professional หรือ
Windows
XP Professional ให้ทำการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลโดยใช้ระบบการเข้ารหัสไฟล์
(EFS
) เพื่อเข้ารหัสไฟล์และโฟลเดอร์ที่มีความสำคัญและหากว่าเครื่องแล็ปท็อปของคุณถูกขโมยไปไฟล์และโฟลเดอร์ของคุณจะได้รับการป้องกันเนื่องจากมีเพียงผู้ที่มีคีย์ถอดรหัสพิเศษเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าใช้ไฟล์ที่
เข้ารหัสดังกล่าวได้
5. ดาวน์โหลดไฟล์ทางอินเทอร์เน็ตเฉพาะจากแหล่งข้อมูล
ที่ไว้ใจได้เท่านั้นหากคุณไม่แน่ใจว่าไฟล์ที่กำลังจะดาวน์โหลดมีความปลอดภัยหรือไม่ให้ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านั้นลงในดิสก์ที่แยกต่างหากจากฮาร์ดดิสก์เช่นซีดีหรือ
ฟล็อปปี้ดิสก์จากนั้นคุณก็จะสามารถสแกน
ไฟล์เหล่านั้นด้วยโปรแกรมสแกนไวรัสได้
6. ใช้ระบบเข้ารหัสที่ใช้รหัสผ่านเพื่อป้องกันไฟล์ในโปรแกรมสำนักงานเทคโนโลยีการเข้ารหัสที่ปรับปรุงใหม่ทำให้การรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในโปรแกรม
Word
2003 และ
Excel
2003 และขยายการเข้ารหัสที่ใช้รหัสผ่านไปใช้กับ
PowerPoint
2003 อีกด้วยคุณสามารถเปิดใช้งานการ
ป้องกันไฟล์ด้วยรหัสผ่านได้จากเมนูเครื่องมือของโปรแกรมทั้งสามดังกล่าวและวิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการเข้าใช้ข้อมูลลับทางธุรกิจได้
7. ล้างข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ของคุณก่อนกำจัดทิ้งหากคุณได้คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่มาและกำลังจะทิ้งเครื่องเก่าไปให้ตรวจสอบว่าคุณได้ลบข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญทิ้งแล้วก่อนที่จะกำจัดเครื่องดังกล่าว
ทิ้งซึ่งมิใช่เพียงแค่การลบไฟล์ ต่างๆแล้วตามลบไฟล์เหล่านั้นออกจาก Recycle
Bin เท่านั้น
แต่หมายถึงการฟอร์ แม็ตฮาร์ดดิสก์ใหม่หรือใช้ซอฟต์แวร์ในการล้างข้อมูลทั้งหมดในฮาร์ดดิสก์
8. ใช้ไฟร์วอลล์หาก
บริษัท ของคุณใช้การ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตชนิดบรอดแบนด์ที่เชื่อมต่อตลอดเวลาอยู่ให้ติดตั้งไฟร์วอลล์ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันขั้นพื้นฐานสำหรับป้องกันผู้บุกรุกจากภายนอกไฟร์วอลล์แบ่งออกเป็น
2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1) ไฟร์วอลล์ชนิดซอฟต์แวร์
เช่นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไฟร์วอลล์ของ Microsoft
ที่มาพร้อมกับ
Windows
XP Professional ซึ่งจะป้องกันเครื่องที่ซอฟต์แวร์นั้นใช้ รันโปรแกรมและ
2) ไฟร์วอลล์ชนิดฮาร์ดแวร์ที่ใช้สกัดกั้นการ
รับส่งข้อมูลทั้งหมดระหว่างอินเทอร์เน็ตกับเครือข่ายทั้งหมดของคุณยกเว้น
แต่การรับส่งข้อมูลจากผู้ส่ง ที่คุณกำหนดไว้เท่านั้น
9. ไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ในการท่องเว็บเนื่องจาก
เซิร์ฟเวอร์เป็นศูนย์บัญชาการของเครือข่ายทั้งหมดของคุณจึงเป็นที่เก็บข้อมูลทางธุรกิจที่มีความสำคัญหากเซิร์ฟเวอร์ของคุณถูกบุกรุก
ข้อมูลทั้งหมดตลอดจนเครือข่ายทั้งหมดของ
คุณก็จะได้รับอันตรายด้วย
10. ใช้รหัสผ่านอย่างชาญฉลาดใช้รหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดาเสมอโดยมีความยาวอย่างน้อย 8
ตัวอักษรและมีตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ตัวเลขและสัญลักษณ์ผสมกันอย่าใช้รหัสผ่านตัวเดียวกันซ้ำ
ๆ กันตลอดเวลา
ให้หมั่นเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณเสมอและหากคุณมีปัญหาในการจำรหัสผ่านให้ลองพิจารณาใช้รหัสวลีซึ่งคุณสามารถใช้ใน
Windows
2000 และ
Windows
XP ได้ตัวอย่างรหัสวลีเช่นฉันมีพิซซ่าสำหรับมื้อกลางวันอังคาร
4.2 การสำรองข้อมูล
หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาที่ข้อมูลที่สูญหายลบไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งถ้าเราได้บันทึกเก็บไว้หลายที่ก็ดีไปสามารถนำไฟล์มาใช้ได้หากข้อมูลสูญหายขึ้นผลกระทบที่เกิดย่อมก่อให้เกิดความเสียหายมากดังนั้นเพื่อ
ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการสูญหายของข้อมูลคือการสำรองข้อมูล
วิธีในการสำรองข้อมูล
ออฟไลน์สำรอง : เป็นวิธีเบื้องต้นที่คนเคยทำการสำรอง
ข้อมูลคงคุ้นเคยนั้นคือการหยุดให้บริการต่างๆบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งหมดก่อนทำการสำรองข้อมูลซึ่งวิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับองค์กรที่จำเป็นต้องทำการให้บริการผู้ใช้
งานตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 7 วัน
การสำรองข้อมูลออนไลน์ : ความไม่สะดวกเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นต้อง
ทำการสำรองข้อมูล แต่ไม่สามารถหยุดการให้บรืการได้จึงมีการพัฒนาวิธีการทำการสำรองข้อมูลขึ้นมาอีกำวิธีหนึ่งคือสามารถทำการสำรองข้อมูลไปพร้อม
ๆ กับการให้ บริการต่างๆแก่ผู้ใช้งานได้
ส่วนกระบวนการในการสำรองรองข้อมูลสามารถแบ่งออกตามลักษณะของทิศทางการไหลข้อมูลได้
2 ประเภท
LAN สำรอง : เป็นกระบวนการแบ็คอัพที่มี
ทิศทางการไหลของข้อมูลที่ต้องการแบ็คอัพไปตามเน็ตเวิร์กเครื่องที่เป็น
เซิร์ฟเวอร์สำรองข้อมูลคือเครื่องที่มีไดรฟ์เทปต่ออยู่ข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์อื่น
ๆ จะถูกดึงออกมาผ่าน ทาง เน็ตเวิร์กส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์สำรองข้อมูล
LAN ฟรีสำรอง : กระบวนการแบ็คอัพสำหรับองค์กรที่ ใช้งานตู้
จัดเก็บหรือที่เรียกกันว่า SAN (Storage Area Network) ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ทำการเชื่อมต่อเพื่อเข้า
มาใช้เนื้อที่ใน SAN ซึ่งข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต้องการทำการสำรองข้อมูลเมื่อกล่าว
วถึงการสำรองข้อมูลสำหรับ
Windows
XP ระบบปฏิบัติการยอดนิยมก็มีคุณสมบัติสำหรับ
การ สำรองข้อมูลที่เตรียมไว้ให้แล้วหากจะถาม ว่าการแบ็กอัพข้อมูลและไฟล์ระบบมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
? อย่างแรกเลยก็คือคุณสามารถเรียก
ข้อมูลกลับคืนมาได้ทุกเวลาที่ต้องการและอย่างที่สองนั้นหากวินโดวส์เกิดล่มขึ้นมาจริง
ๆ คุณก็มีวิธีรับมือกับมันด้วยตัวเอง
4.3 ไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความ
สามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่น
ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้
อีกเครื่องคุณหนึ่งหรืออาจทางทหารผ่านระบบผู้ซื้อสินค้าเครือข่ายหรือระบบผู้ซื้อสินค้าสื่อสาร
Thailand
ข้อมูลไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกันหัวเรื่อง:
การที่คอมพิวเตอร์ใดติดไวรัสหมายถึงว่าได้ไวรัสได้เข้าไปผังคุณตัวขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหน่วยความสามารถจำคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้วเนื่องจากไวรัสก็เป็นเพลงแค่โปรแกรม
ๆ คุณหนึ่งหัวเรื่อง: การที่ไวรัสจะเข้าไปขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหน่วยความสามารถจำได้นั้นจะคุณต้องมีหัวเรื่อง:
การถูกเรียกให้ทำงานได้นั้นยังขึ้นขณะนี้กับออกประเภทของไวรัสแต่ละคุณตัวปกติคุณผู้ใช้มักจะไม่รู้คุณตัวว่าได้ได้ทำการปลุกคอมพิวเตอร์ไวรัสขึ้นมาทำงานแล้วจุด
ประสงค์ของการทำงานของไวรัสแต่ละตัว
ขึ้นอยู่กับตัวผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้นเช่นอาจสร้างไวรัสให้ไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่น
ๆ ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแสดงข้อความวิ่งไปมาบนหน้าจอเป็นต้น
มาลแวร์อาจประกอบมาจากไวรัสคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่างๆดังนี้
- หนอนคือมีการเรียกเป็นภาษาไทยว่า"หนอนอินเตอร์เน็ต"เป็นไวรัสประเภทหนึ่งที่ก่อกวนสามารถทำ สำเนาตัวเอง (คัดลอก) และแพร่กระจายไปยังเครื่องคอมฯ เครื่องอื่น ๆ ได้ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวและในระบบเครือข่ายเสียหายไวรัสวอร์ม นี้ปัจจุบันมีหลากหลายมากมีการแพร่ กระจายของไวรัสได้รวดเร็วมากทั้งนี้เนื่องจากไวรัสวอร์มจะสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้
- โทรจันคือเป็นโปรแกรมที่มีการพัฒนาขึ้น ให้มีการถูกมองว่าเป็นโปรแกรมปกติ แต่ที่จริงแล้วจะมีการแฝงการทำงานของ ไวรัสเข้ามาเพื่อทำให้เกิดคว่ม เสียหายต่อผู้ใช้งานหรือดึงข้อมูลที่สำคัญของเครื่อง คอมพิวเตอร์
- สปายแวร์ คือเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมา เพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อจัดการข้อมูลที่สำคัญโดย สปายแวร์จะมีการส่งตัวเองไปทาง ช่องโหว่ของเว็บไซต์ต่างๆเช่นพวก ป๊อปอัพโฆษณาโดยจุดประสงค์จะเป็นการทำให้เกิด ความเสียหาย ต่อผู้ใช้งาน
- ไฮบริดภัยคุกคามมัลแวร์หรือผสมคือมัลแวร์ที่รวมความสามารถของไวรัสเวิร์มโทรจันสปายแวร์เข้าไว้ด้วยกัน
- ฟิชชิ่งคือการปลอมแปลงอีเมล์หรือเว็บไซต์รูปแบบคุณหนึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีวัตถุประสงค์ที่จะต้องการ Thailand ข้อมูลกระดานข่าวต่างๆโดยส่วนมากกระดานข่าวที่ของคุณคนส่งฟิชชิ่งต้องการมากก็คือผู้ใช้รหัสผ่านและหมายเลขบัตรเครดิตโดยฟิชชิ่งส่วนมากจะเสแสร้ง ว่ามาจาก บริษัท ที่มีความน่า เชื่อถือหรือว่ามาจาก บริษัท ที่เหยื่อเป็นสมาชิกอยู่โดย บริษัท ที่มักจะโดนกันไปบ่อยก็ ได้แก่ eBay.com , PayPal.com และธนาคารออนไลน์ต่าง
การป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความ
สามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่น
ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้
อีกเครื่องคุณหนึ่งหรืออาจทางทหารผ่านระบบผู้ซื้อสินค้าเครือข่ายหรือระบบผู้ซื้อสินค้าสื่อสาร
Thailand
ข้อมูลไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน หัวเรื่อง: การที่คอมพิวเตอร์ใดติดไวรัสหมายถึงว่าได้ไวรัสได้เข้าไปผังคุณตัวขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหน่วยความสามารถจำคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้วเนื่องจากเนชั่ไวรัสก็เป็นเพลงแค่โปรแกรม
ๆ คุณหนึ่งหัวเรื่อง: การที่ไวรัสจะเข้า <aI =
33> ไป
ขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหน่วยความสามารถจำได้นั้นจะคุณต้องมีหัวเรื่อง:
การถูกเรียกให้ทำงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายได้นั้นยังขึ้นขณะนี้กับออกประเภทของไวรัส
แต่คุณละคุณตัวปกติคุณผู้ใช้มักจะไม่รู้คุณตัวว่าได้ได้ทำหัวเรื่อง:
การปลุกคอมพิวเตอร์ไวรัสขึ้นมาทำงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแล้ว จุดประสงค์ของหัวเรื่อง:
การทำงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายของไวรัส <aI =
87> แต่
คุณละคุณตัวขึ้นขณะนี้กับคุณตัวคุณผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้นเช่นอาจสร้างไวรัสให้ไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่น
ๆ
ที่ขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสำคัญแสดงข้อความสามารถวิ่งไปมาบนหน้า:
ภาพประกอบจอระบบเป็นคุณต้นi =
106> ๆ
ที่อื่น
ขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสำคัญแสดงข้อความสามารถวิ่งไปมาบนหน้า:
ภาพประกอบจอระบบเป็นคุณต้นi =
106> ๆ
ที่อื่น
ขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสำคัญแสดงข้อความสามารถวิ่งไปมาบนหน้า:
ภาพประกอบจอระบบเป็นคุณต้น
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์
- ทำการอัพเดตฐานข้อมูลไวรัสคอมพิวเตอร์
- ตรวจสอบไวรัสจาดอุปกรณ์บันทึกข้อมูล
- ป้องกันไวรัสแมโคร
- ตรวจสอบไวรัสในเครื่องคอมพิวเตอร์
- ตรวจสอบและอุดช่องโหว่ของระบบปฏฎิบัติการอย่างสม่ำเสมอ
- ปรับระบบการทำงานให้ปลอดภัย
- ระวังในการอ่านอีเมลและเปิดไฟล์
- สำรองข้อมูล
ทำอย่างไรเมื่อติดไวรัสคอมพิวเตอร์
ติดไวรัสในปัจจุบันอาจจะไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจเหมือนในอดีต
แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากติดไวรัสในปัจจุบันน่ากลัวกว่า
แต่ก่อนหลายเท่าเนื่องจากบางครั้งไวรัสที่เข้ามานั้นไม่ได้แค่โจมตีด้วยการลบไฟล์
เปลี่ยนชื่อหรือซ่อนไฟล์เท่านั้น
แต่มีการพัฒนาด้วยการแทรกตัวเข้าไปอยู่ในจุดต่างๆเพื่อหวังผลและจุดประสงค์ของไวรัสบางประเภทเช่นมัลแวร์โทรจันหรือรูทคิทมีแนวโน้มที่จะเข้ามาฉกฉวยข้อมูลสำคัญ
ที่มีอยู่ในเครื่องออกไปด้วย
อัพเดตแอนตี้ไวรัสแล้วทำการสแกน
เบื้องต้นให้เข้าไปดูระบบผู้ซื้อสินค้าแอนตี้ไวรัสก่อนว่าได้มีหัวเรื่อง:
การทำงานตามปกติหรือไม่โดยให้เข้าไปดูในห้างหุ้นส่วนจำกัดส่วนของรถยนต์ป้องกันหรือยังมีการป้องกันตามที่ควร
จะเป็นหรือเปล่าเพราะหากเป็นไวรัสทั่วไปหาก
ระบบทำงานอยู่อย่างน้อยก็จะทำ หน้าที่ป้องกันได้ตามปกติ
แต่ก็จะมีบางกรณีที่อาจทำให้ระบบไม่ทำงานอย่างเช่นแอนตี้ไวรัสหมดอายุ
, ถูกปิดหรือปิดการใช้งานไม่ทราบสาเหตุหรือโปรแกรมไม่ได้รับ
การอัพเดตมานานก็เป็นสาเหตุ สำคัญที่ระบบไม่เปิดทำงานตามปกติ
การแก้ไขก็เพียงติดตั้งแอนตี้ไวรัสใหม่หรืออัพเดตให้มีความทันสมัยแล้วจึงทำการสแกนระบบใหม่ทั้งหมดโดยเป็นการสแกนแบบ
ลึกหรือสแกนแบบละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อ ค้นหากักกันหรือลบทิ้งเพื่อป้องกัน โน๊ตบุ๊คติดไวรัสต่อไป
ดาวน์โหลดลบเครื่องมือ
หากเป็นไวรัสบางประเภทไม่สามารถที่
จะกำจัดด้วยโปรแกรมแอนตี้ไวรัสพื้นฐานซึ่งอาจะเป็นไวรัสใหม่
ๆ
หรือมีพฤติกรรมที่สามารถหลุดรอดการตรวจจับของโปรแกรมได้ก็อาจจะต้องพึ่งเครื่องมือที่เรียกว่า
นำเครื่องมือใน การตรวจจับและลบไฟล์ไวรัสที่กำลังทำงานอยู่ในระบบ
นั้นเองส่วนใหญ่จะสามารถดาวน์โหลดเครื่องมือเหล่านี้ได้จากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสค่ายต่างๆไม่ว่าจะเป็น
Kaspersky,
AVG หรือ
AVAST
เป็นต้นนับเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่
ช่วย ในการแก้ไขปัญหาไวรัสใหม่
ๆ ที่ เข้ามาคุกคามได้เป็นอย่างดี
ย้าย Thailand
ข้อมูลไว้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ปลอดภัย
ถ้าปรากฏว่าได้มีความสามารถเสี่ยงสูงสุดสูงที่อาจจะเกิดหัวเรื่อง:
การติดต่อลุกลามไปยังจุดอื่น ๆ ก็คงคุณต้องมีหัวเรื่อง: การย้าย Thailand
ข้อมูลบางส่วนเป็นการสำรองไฟล์เอาไว้เพื่อความสามารถปลอดภัยอาจจะใช้เป็นการโยกไปยัง
ไดรฟ์อื่น
ๆ ที่มีอยู่ ในระบบหรือจะเป็นการใส่เอาไว้บนฮาร์ดดิสก์แบบต่อภายนอก
แต่ก็ต้องเป็นขั้นตอนที่ต่อจากการสแกนไฟล์ต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อป้องกันการติดต่อไปยังจุดอื่น
ๆ ต่อไปซึ่ง ในกรณีที่ไดรฟ์หลักติด
ไวรัสก็ควรจะต้องสแกนไดรฟ์อื่น
ๆ ด้วยเช่นกันหากต้องการความปลอดภัยและมั่นใจสูงสุด
อัพเกรดแอนตี้ไวรัส
ในห้างหุ้นส่วนจำกัดกรณีที่ใช้แอนตี้ไวรัสเรียกเข้าโหลดฟรีหรือที่มากับระบบผู้ซื้อสินค้าปฏิบัติการอาจไม่เพียงพอก็ควรจะคุณต้องมองหาเครื่องมือดีๆอย่างเช่นป้องกันไวรัสตัวใหม่หรือใช้เป็น
Internet
Security ในเคสที่มีการเชื่อมต่อกับ
โลกออนไลน์บ่อย ครั้งอย่างเช่นกรณีที่ต้องทำธุรกรรม
ต่างๆบนอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์หรือสิ่งใดก็ตามที่มีการ
เข้าสู่ระบบด้วยการใส่ผู้ใช้และรหัสผ่านในการเข้าใช้งานโดยในปัจจุบัน ก็มีผู้
ให้บริการอยู่มากมายเลยทีเดียวสนนราคาก็
ไม่แพงเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงพันกว่าบาทขึ้นอยู่กับความสามารถและการให้บริการของแต่ละค่ายนั่นเองข้อนี้แนะนำเลยว่าเหมาะสมและคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการความปลอดภัย
และสบายใจในการทำธุรกรรม
ตรวจสอบอุปกรณ์บันทึก Thailand
ข้อมูลอื่น
ๆ
เป็นอีกสิ่งคุณหนึ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามเพราะโอกาสที่ที่คุณคุณจะปลอดภัยหรือเกิดปฐมวัยขึ้นมาใหม่ขณะนี้ที่ตรงจุดนี้เพราะบางกรณีหลังจากที่สแกนไวรัสเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับไฟล์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดระบบผู้ซื้อสินค้า
แต่ไวรัสยังมีค้างอยู่ในอุปกรณ์
อื่น ๆ เช่นแฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอกเมื่อนำเข้ามาต่อกับระบบแล้วไม่ได้สแกนให้ละเอียดอีกครั้งหรือมีการดึงไฟล์ต่างๆเข้ามาทันทีก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการ
ติดไวรัสซ้ำอีกครั้งดังนั้นสิ่งที่
ต้องทำก็คือการสแกนอุปกรณ์ที่เป็น
ที่เก็บข้อมูลต่างๆแบบละเอียดอีกครั้งหนึ่งก่อนที่ จะทำการ คัดลอก / ตัด /
วางหรือสิ่งอื่นใดเข้ามาในระบบ หลักเพื่อความปลอดภัยและไม่ต้องเสียเวลา
ในการแก้ไขอีก
เปลี่ยนพาสส์เวิร์ดในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง:
การล็อกอิน
แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกันนัก
แต่หากเป็นไปได้หรือไม่ยุ่งยากเกินไปก็แนะนำว่าได้ให้ทำการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านใหม่หลังจากที่มีการสแกนและแก้ไข
จากการติดไวรัสไป
เรียบร้อยแล้วเนื่องจากไวรัสบางประเภทอย่างเช่น
โทรจันแฝงตัวเข้ามาเพื่อเก็บข้อมูลบรรดา Keylogger แล้วจัดส่งไปยังผู้ไม่หวัง
ดีปลายทางเพื่อนำไปใช้หาประโยชน์ได้อย่างง่ายดายซึ่งการเปลี่ยนระบบล็อกอินบ่อยๆหรืออย่างน้อย
3 เดือนครั้ง ก็จะช่วยลดอัตราความเสี่ยงใน เรื่องดังกว่าวไปได้มากทีเดียว
ฟอร์แมตติดตั้งระบบผู้ซื้อสินค้าใหม่เมื่อเกินเยียวยา
แต่ถ้าในห้างหุ้นส่วนจำกัดกรณีที่ไม่ด้านแก้ไขหรือสแกนได้หมดรวมถึงสงสัยว่าได้ไวรัสยังคงขณะนี้ก็อาจจะใช้วิธีสุดท้ายก็คือหัวเรื่อง:
การฟอร์แมตหรือล้างฮาร์ดดิสก์ใหม่เพื่อความสามารถสบายใจในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง:
การใช้งานเจ้าหน้าที่ฝ่ายซึ่ง ข้อดีก็คืออุ่นใจในการใช้งาน
มากขึ้นและยังได้ความเร็วในการทำงานกลับคืนมาด้วยการเคลียร์สิ่งต่างๆออกไปนอกจากนี้ยังได้เริ่มติดตั้งโปรแกรมใหม่
ๆ ที่มีการอัพเดตมากขึ้น แต่ข้อเสียคือต้องเสียเวลาใน
การทำค่อนข้างนานรวมถึงการติด ตั้งไดรเวอร์และโปรแกรมลงไปใหม่รวมถึงต้องเตรียมแบ็คอัพข้อมูลเอาไว้ด้วยเรียกได้ว่างานช้างเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยคุ้นเคย
โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร
คุณโปรแกรมป้องกันไวรัส
หรือ หนังสือแอนติไวรัส
(อังกฤษ: ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส)
เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อคอยตรวจจับป้องกันและกำจัดโปรแกรมคุกคามทางคอมพิวเตอร์หรือคุณมัลแวร์
ซึ่งหมายถึง ไวรัสเวิร์มโทรจันสปายแวร์แอด ร์แว
และซอฟต์แวร์คุกคามออกประเภทอื่น ๆ
การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
ติดไวรัสแล้วอย่ากลัวใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่เหมาะกับตัวเองติดตั้งโปแกรมป้องกันไวรัสให้เป็นอัพเดตฐานข้อมูลไวรัส (Definition)
อยู่เสมอเปลี่ยนเวอร์ชันใหม่ทันทีที่มีโอกาสอย่ารับไฟล์แปลกหน้าและติดตามข่าวสารอยู่เสมอนี่
คือ 7 ขั้นตอนในการช่วยป้องกันคุณไม่ให้ติดไวรัสคอมพิวเตอร์
1. ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส
การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสเป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรกเพราะโปรแกรมเหล่านี้เป็นเหมือนบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณโปรแกรมป้องกันไวรัสจะทำหน้าที่หลักอยู่สามส่วนคือป้องกันไวรัสที่จะเข้ามาในเครื่องเป็นการตรวจ
ดูไฟล์ที่จะเข้ามาในเครื่องว่าจะเป็นไวรัสหรือไม่? ตรวจจับไวรัสที่เล็ดลอดเข้ามาสแกนไฟล์ที่อยู่ในเครื่องว่าเป็นไวรัสหรือไม่?
กำจัด (ลบ) หรือกักกัน (กักกัน) ในกรณีที่พบไฟล์ไวรัสโปรแกรมป้องกันไวรัสจะทำการลบไฟล์นั้นทิ้ง
แต่ถ้าพบว่าเป็นไฟล์ที่มีความเสียง แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นไฟล์ไวรัสหรือลบไม่ได้โปรแกรมจะทำการกักกัน
ไฟล์ไม่ให้มีการทำงานโดยการทำงานในสองส่วนแรกจะใช้การเปรียบเทียบฐานข้อมูลการทำงานของไวรัส (Definition)
กับไฟล์ต้องสงสัยว่าเข้าข่ายที่จะเป็นไฟล์ไวรัสหรือไม่ถ้าใช่ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการ
ลบหรือกักกันไฟล์ต้องสงสัยต่อไป
2. ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่เหมาะกับตัวเอง
โปรแกรมป้องกันไวรัสในปัจจุบันมีอยู่หลายประเภทตาม
แต่ที่ผู้ผลิตแต่ละรายจะประกาศสินค้าออกมา แต่ตัวที่สำคัญ ๆ
ที่คุณควรรู้จักจะมีอยู่ไม่กี่ตัวนั่นคือป้องกันไวรัสเป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ป้องกันไวรัสรวมไปถึง
สปายแวร์ (Spyware)
และแอดแวร์ (แอดแวร์)
ได้บางส่วน Firewall เป็นระบบป้องกันการบุกรุกเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาติป้องกันการโจมตีโดยที่คุณไม่รู้ตัวป้องกันสปายแวร์เป็นโปรแกรมที่
มีหน้าที่กำจัดโปรแกรมจำพวกสปายแวร์และแอดแวร์โดยเฉพาะซึ่งโปรแกรมที่มีหน้าที่กำจัดโปรแกรมจมีการควบคุมที่ง่ายผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้มากนักโดยทั่วไปโปรแกรมเหล่านี้
จะมีแยกขายเป็นตัว ๆ แต่ก็มีการนำเอาโปรแกรมทั้งหมดมารวมกันและเพิ่มระบบรักษาความปลอกดภัยอื่น
ๆ เช่นโปรแกรมป้องกันสแปมเมล์
(Spam
Mail) หรือโปรแกรมกรองข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
(Content
Filtering) เข้ามารวม
เป็นชุดโปรแกรมอินเทอร์เน็ตความปลอดภัยซึ่งชุดโปรแกรมนี้จะมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีและครบถ้วน
แต่ผู้ใช้ก็ต้องมีความรู้ในการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยมากพอสมควร
3. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เป็น
ในการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสหลาย
ๆ
คนยังไม่รู้วิธีการติดตั้งที่ถูกต้องนักทำให้โปรแกรมไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรมอย่างถูกวิธีไม่ได้มีวิธีการที่ยุ่งยากอะไรเพียงแค่ลำดับความ
สำคัญของโปรแกรมให้ถูกก็พอขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสนั้นควรทำหลังจากที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการเรียบร้อยแล้วซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงที่ระบบมีความสะอาดมากที่สุดและทำการอัพเดตให้โปรแกรมป้องกันไวรัสมี
ฐานะฐานข้อมูลของไวรัสล่าสุดจนถึงวันที่ติดตั้งโปรแกรมจากนั้นก็ทำการติดตั้งโปรแกรมต่าง
ๆ ลงไปเพื่อเป็นการเช็กว่าโปรแกรมเหล่านั้นมีไฟล์ไวรัสแฝงมาหรือไม่และขั้นตอนสุดท้ายค่อยก็ทำการย้ายไฟล์ข้อมูลกลับเข้ามา
เก็บไว้ในเครื่องอย่างไรก็ตามบางคนอาจจะติดตั้งโปรแกรมต่าง
ๆลงไปก่อนก็ได้ไม่ว่ากันถ้ามั่นใจว่าโปรแกรมที่ใช้อยู่มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้แล้วจึงติดตั้งโปรแกรมติดตั้งไวรัสในขั้นตอนต่อมาและทำการอัพเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสในทันสมัยก่อนที่จะนำข้อมูลเข้ามาเก็บเป็น
ขั้นตอนสุดท้ายเพราะโอกาสที่ไวรัสจะแฝงเข้ามากับข้อมูลที่คุณมีอยู่มีความเป็นไปได้สูงกว่าไวรัสที่แฝงมากับโปรแกรม
4. อัพเดตฐานข้อมูลไวรัส (Definition)
อยู่เสมอ
การอัพเดตฐานข้อมูลไวรัสเป็นสิ่งที่ผู้คนมักจะหลงลืมอยู่เป็นประจำหลาย
ๆ คนยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนักเกี่ยวกับโปรแกรมป้องกันไวรัสว่าเมื่อติดตั้งโปรแกรมไปแล้วจะสามารถป้องกันไวรัสได้ตลอดไปนั้นถือว่าเป็น
ความเข้าใจที่ผิดโปรแกรมป้องกันไวรัสมีหน้าที่ในการป้องกันไวรัส
แต่ผู้พัฒนาไวรัสเองก็มีการพัมนารูปแบบของไวรัสใหม่
ๆ ออกมาให้สามารถทำงานทะลุทะลวงโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ไม่มีการอัพเดตฐานข้อมูลได้ถ้าไม่มั่นใจ
ก็ให้คุณเปิดโปรแกรมป้องกันไวรัสขึ้นมาแล้วมาหาคำสั่งปรับปรุงเมื่อเจอก็คลิ๊กเลยโปรแกรมจะทำการอัพเดตฐานข้อมูลให้คุณควรทำอย่าน้อยวันละครั้งถ้าทำได้
แต่ถ้าทำไม่ได้ทุกครั้งที่ต่อเข้าอินเทอร์เน็ต
ก็ควรทำการอัพเดตทันทีเพราะหากคุณทิ้งไว้นานเกินไปการอัพเดตจะใช้เวลานานมากและบางครั้งในช่วงที่คุณไม่ได้อัพเดตคุณอาจจะโดนไวรัสเล่นไปแล้วก็ได้
5. เปลี่ยนเวอร์ชันใหม่ทันทีที่มีโอกาส
โดยทั่วไปโปรแกรมป้องกันไวรัสจะมีอายุการงานประมาณ
1 ปีหลังจากนั้นผู้ผลิตจะออกโปรแกรมป้องกันไวรัสเวอร์ชันใหม่ออกมาบางคนอาจจะคิดว่าเราจะเสียเงินไปซื้อโปรแกรมเวอร์ชันใหม่ทำไมในเมื่อเวอร์ชันเก่าก็ยังใช้ได้และยัง
อัพเดตฐานข้อมูลได้จริงอยู่ครับที่เมื่อหมดปีคุณยังสามารถใช้งานโปรแกรมเวอร์ชันเก่าได้
แต่โปรแกรมป้องกันไวรัสเวอร์ชันใหม่ที่ออกมาจะมีการพัฒนาระบบการทำงานภายในเพื่อให้สามารถรับมือกับไวรัสได้ดีขึ้นรวมไปถึงอาจจะ
มีการเพิ่มฟังก์ชันบองอย่างที่ช่วยให้คุณใช้งานโปรแกรมได้สะดวกง่ายและปลอดภัยกว่าเดิมเช่นลดขนาดไฟล์ฐานข้อมูลไวรัสให้มีขนาดเล็กทำให้การอัพเดตสามารถทำได้รวดเร็วขึ้น
6. อย่ารับไฟล์แปลกหน้าและติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
แม้ว่าคุณจะอัพเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสให้ใหม่อยู่เสมอแค่ไหนก็ตาม
แต่ความจริงอย่างหนึ่งที่คุณควรรู้คือไฟล์ดัพเดตนี้ก็มีขึ้นหลังจากที่เกิดไวรัสขึ้นแล้วนั่นหมายถึงคุณก็ยังมีโอกาสติดไวรัสได้
ตลอดเวลาการป้องกันอีกอย่างหนึ่งที่คุณทำเองได้ก็คือไม่พยายามรับไฟล์แปลก ๆ
เพราะไฟล์เหล่านั้นอาจจะมีไวรัสแฝงมาในสมัยก่อนไฟล์เหล่านี้อาจจะส่งมาจากคนที่เราไม่รู้จัก
แต่ไวรัสสมัยใหม่ก็
ฉลาดพอที่จะขโมยรายชื่ออีเมล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคนรู้จักของคุณดังนั้นอย่าไว้ใจไฟล์ที่ส่งมาถ้าไม่มั่นใจจะใช้วิธี
MSN
หรือโทรไปถามก็ได้ครับว่าเพื่อนหรือเจ้านายของคุณส่งไฟล์นี้มาหรือไม่และคุณ
ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับไวรัสใหม่
ๆ อยู่เสมอซึ่งเว็บไซต์ของผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสจะมีการอัพเดตข่าวอยู่เสมอ ๆ
7. ติดไวรัสแล้วอย่ากลัว
ติดไวรัสแล้วทำยังไงก่อนอื่นอย่ากลัวหรือเพิ่งตื่นตกใจไปลองเช็คอาการที่เกิดขึ้นแล้วใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ติดไวรัสหาข้อมูลว่าไวรัสที่เล่นงานคุณชื่อว่าอะไรและมีโปรแกรมแก้ไขไหม
(เครื่องมือกำจัด) ถ้ามี ก็ดาวน์โหลดมาใช้งานเพื่อทำการลบไวรัสจากนั้นก็เปิดเครื่องให้อยู่ในระบบโหมด
Safa ขั้นตอนต่อไปทำการอัพเดตฐานข้อมูลไวรัสให้ทันสมัยที่สุดแล้วรีบูตเครื่องอีกครั้งตามปกติแล้วทำการสแกนไวรัสในเครื่องอีกครั้งเพื่อหา
ไฟล์ไวรัสที่ยังหลงเหลืออยู่
แต่ถ้าแก้ไขแล้วยังไม่ดีขึ้นก็ต้องทำใจฟอร์แมตใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น